kip5250110010
Welcome to MyBlog Kanthima Thongaram
หน้าเว็บ
เกี่ยวกับฉัน
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554
10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี
10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี
ในแต่ละวันเราจำเป็นต้องรับประทานอาหารมากมาย มีคำแนะนำจากหลายสำนักให้กินนั่น ห้ามกินนี่จนไม่รู้จะเชื่อใครดี วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ของการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างเต็มที่มาฝาก
1. กินอาหารเช้า เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง
2. เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี
3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น คนเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ) เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว
4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
5. บอกลาขนมและของกินจุบจิบ ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ
6. สร้างความคุ้นเคยกับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล
7. จัดน้ำชาให้ตัวเอง ทั้งชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%
8. กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมี คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวบล็อกเคอรี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับการกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วย
9. เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อย ย่อยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด
10. กินถั่วให้เป็นนิสัย ทำให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสัก 2 ช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง อาจทำให้อ้วนได้
ถ้าปฏิบัติให้ได้ครบทุกข้อตามคำแนะนำข้างต้นนี้จนเป็นนิสัย
8 วิธีถนอมรักให้ยืนยาว
“กว่าที่คน 2 คน จะรักกันได้ก็ยากพออยู่แล้ว แต่การถนอมความรักที่มีต่อกันให้ยั่งยืนยาวนานนั้น ยากยิ่งกว่า”
ใครก็ไม่รู้พูดถึงการครองรักนี้ไว้ตรงใจดีเหลือเกิน เคยลองถามคนอื่นๆ ดูถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงยืนยันสนับสนุนท่วมท้นจากผู้มีประสบการณ์ว่า จริงของเขาค่ะ งานนี้ชัวร์ไม่มีมั่วนิ่ม…ได้ยินอย่างนี้แล้วบรรดาคนโสดทั้งหลายก็อย่าเพิ่งขยาด กลัวความรักกันไปเสียหมดนะคะ ใจเย็นๆ ก่อน เพราะถึงการรักษาความรักไม่ให้จืดจางนั้นจะยาก ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางเสียเลยซะทีไหน
ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากให้ชีวิตคู่ของคุณอบอวลไปด้วยความรัก ความสุข คุณและเขาคนนั้นก็ไม่ควรขาดเรื่องสำคัญต่อไปนี้…
1. ซื่อสัตย์ต่อกัน
เรื่องของความซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อกันนั้น นับเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในครอบครัว เพราะสิ่งนี้หมายรวมไปถึง การให้เกียรติ ความไว้ใจ เชื่อถือศรัทธาระหว่างคนในบ้าน การโกหกหลอกลวงและไม่ซื่อตรงต่อกันนั้น เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวมากมายต้องแตกสลายมาแล้ว ดังนั้นถ้าไม่อยากต้องมานั่งกลุ้มใจในภายหลังก็อย่ารินอกใจกันกันเด็ดขาด
2. เปิดเผย จริงใจ
ความปรารถนาดีอย่างจริงใจ เป็นสิ่งที่คนรักกันควรมอบให้โดยไม่ต้องร้องขอ ความกล้าที่จะติเตียน ชี้แนะถึงข้อผิดพลาด และบกพร่องในทุกๆ เรื่อง และต่างพร้อมรับฟังเพื่อช่วยกันแก้ไขข้อบกพร่อง จะทำให้รักของคุณไม่มีวันจืดจางอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจงอย่ากลัวที่จะพูดความจริงกับคนที่คุณรัก
3. หนักแน่น ไม่ใช้อารมณ์
แม้ว่าจะรักกันเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว เป็นธรรมดาที่จะต้องมีเรื่องกระทบกระทั่ง โต้เถียงทะเลาะกันบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพียงแต่ต้องไม่ลืมตัว ระบายความรู้สึกออกมาด้วยการใช้อารมณ์โกรธเกรี้ยว ดุด่าทำร้ายกัน ในการแก้ปัญหา แม้ว่าจะไม่พอใจขนาดไหนก็ควรตั้งสติ ข่มใจให้สงบเพื่อหาทนทางแก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะคลี่คลายไปในที่สุด
4. ร่วมทุกข์ร่วมสุข
ในยามที่เกิดปัญหาขึ้นหรืออุปสรรคในครอบครัว ต้องร่วมมือร่วมใจและอดทนที่จะฝันฝ่าต่อความยากลำบากไปด้วยกัน เป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกข้อที่ไม่ควรมองข้ามไป การปลุกปลอบคอยเป็นกำลังใจต่อกันในยามยาก ย่อมจะทำให้เกิดความเข้าอกเข้าใจจนเกิดเป็นความเป็นความผูกพันที่จะทำให้ ความรักที่มีต่อกันแน่นแฟ้นเพิ่มมากขึ้น
5. มีน้ำใจช่วยเหลือกัน
การแสดงน้ำใจด้วยการช่วยเหลือคนในครอบครัว หรือคู่ชีวิตของคุณ โดยไม่ดูดายทอดธุระให้เป็นหน้าที่ของใครเพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่จะทำให้ความรักในหัวใจระหว่างกันไม่เหือดแห้งหายไป
6. ให้อภัยเมื่อทำผิด
สุภาษิตเขายังบอกว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” แล้วจะประสาอะไรกับคนธรรมดาๆ อย่างตัวคุณเองหรือคนที่คุณรัก ที่คงจะต้องมีเรื่องผิดพลาดในชีวิตขึ้นบ้าง จงให้อภัยและให้โอกาสเขาแก้ตัวใหม่อีกครั้ง
7. ไม่ริดรอนความเป็นส่วนตัว
ถึงแม้ว่าจะรักกันปานใด แต่มนุษย์ทุกคนยังคนรักอิสระ และต้องการเก็บความเป็นส่วนตัว (แม้จะเหลืออยู่ไม่มากนัก) เพราะฉะนั้นต้องเคารพในความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย ไม่ก้าวก่าย วุ่นวาย และให้อิสระในการใช้ชีวิตต่อกันบ้าง หมดสมัยแล้วกับการที่จะต้องฝืนใจทำสิ่งที่ไม่ชอบเพื่อเอาใจกัน ถ้าทำได้อย่างนี้ชีวิตคู่ของคุณก็จะแฮปปี้ ไม่มีปัญหา
8. บอกรักกันบ้าง
แม้จะไม่บอกด้วยคำพูดตรงๆ แต่การกระทำที่แสดงออกถึงความรักตามสไตล์หรือแบบฉบับของคุณเอง ที่จะสื่อสารให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความรู้สึกรักที่คุณมีให้ จะเป็นน้ำจิ้มรสเด็ดที่จะช่วยให้ชีวิตรักของคุณทั้งสองมีสีสันมากขึ้น ความโรแมนติก สวีทหวานแหววนานๆ เอามาใช้ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจเสียบ้าง ก็ไม่เสียหายหรอกนะคะ